สหรัฐอเมริกา
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จัดทำโดย Conference Board ในเดือนตุลาคม
ขยายตัว 0.2% จากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นตัวเลขทบทวนจากเดิมที่รายงาน
ว่าขยายตัว 0.6% ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มต่างๆ ในตอนนี้ เศรษฐกิจ
สหรัฐน่าจะขยายตัวเล็กน้อยต่อไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า อย่างไรก็ดี ตอนนี้ยังไม่มีความแน่ชัดว่า
พายุแซนดี้จะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใดต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่จัดทำโดย Reuters/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ช่วง
ท้ายเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 82.7 จากระดับ 82.6 ในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม ตัว
เลขดังกล่าวต่ำกว่ารายงานช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐอยู่ที่
84.9 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 84.5 ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยของดัชนีความเชื่อ
มั่นผู้บริโภคในช่วงระยะเวลา 5 ปีก่อนที่สหรัฐจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำซึ่งดำเนินมาจนถึง
กลางปี 2552 นั้น อยู่ที่ระดับ 89 ขณะที่ค่าเฉลี่ยในช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งล่าสุดอยู่ที่ 64.2
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐที่จัดทำโดย Markit
ในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.4 จากระดับ 51.0 ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใน
รอบ 5 เดือน ทั้งนี้ ตัวเลขที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวจากเดือนก่อน
หน้าสำหรับดัชนีย่อยอื่นๆนั้น ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.8 จากระดับ 51.1 ในเดือน
ตุลาคมขณะที่ดัชนีการส่งออกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 49.9 จากระดับ 47.2 ในเดือนก่อนหน้า แต่ยังหด
ตัวเล็กน้อย เนื่องจากตัวเลขยังต่ำกว่าระดับ 50 ส่วนดัชนีด้านการผลิต ปรับขึ้นสู่ระดับ 52.9
จากระดับ 51.4 ในเดือนก่อนหน้า และดัชนีการจ้างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.6 จากรัดบ 51.8 ใน
เดือนตุลาคม
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่ในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 17 พฤศจิกายน
ลดลง 41,000 ราย สู่ระดับ 410,000 ราย ทั้งนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังอยู่
เหนือระดับ 400,000 ราย ติดต่อกัน 2 สัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากพายุแซนดี้ที่
พัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐได้ส่งผลต่อหน้าที่การงานของผู้คนจำนวนมาก สำหรับจำนวนผู้
ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 9,500
ราย แตะที่ 396,250 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี
ยุโรป: เยอรมนี
ธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) ระบุว่า เศรษฐกิจเยอรมนีอาจจะชะลอตัวลง
อีกในปลายปีนี้ ขณะที่กำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้ยูโรโซนและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอ
ตัว บุนเดสแบงก์ระบุว่า วิกฤติหนี้ยูโรโซนและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวกำลังกระทบหลาย
ภาคส่วนของเศรษฐกิจเยอรมนี ขณะที่ผลสำรวจพบว่า ความเชื่อมั่นดิ่งลง, อัตราว่างงานเพิ่มขึ้น
และผลผลิตลดลง นอกจากนี้ บุนเดสแบงก์ยังระบุว่า ตลาดจ้างงานจะได้รับผลกระทบเช่นกัน
ฝรั่งเศส
นายปิแอร์ มอสโควิซี รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสกล่าวปกป้องเศรษฐกิจและการเงินของ
ฝรั่งเศส หลังสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่า
เชื่อถือพันธบัตรของรัฐบาลฝรั่งเศส ลงจากระดับ AAA ว่า การเปลี่ยนแปลงของอันดับความน่า
เชื่อถือดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศส ความพยายามที่ดำเนิน
การโดยรัฐบาล และความน่าเชื่อถือของประเทศ
กรีซ
ที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซนไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องข้อตกลงในการให้ความ
ช่วยเหลือกรีซเพิ่มเติม ส่งผลให้สถานการณ์กลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรทั้ง 17 ประเทศนั้น
ตกอยู่ในความไม่แน่นอนมากขึ้นไปอีก
นายฌอง คล้อด ยุงเกอร์ ประธานการประชุมรมว.คลังยูโรโซน กล่าวว่า จะมีการจัดการ
ประชุมอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 26 พ.ย.นี้ ขณะที่การประชุมที่ผ่านมานั้น มีความคืบหน้าในเรื่องของ
การระบุขอบเขตของความเป็นไปได้ในการลดหนี้ของรัฐบาลกรีซเท่านั้น แต่รมว.คลัง กลุ่มเจ้าหนี้
ของกรีซ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับวิธีการบริหาร
จัดการหนี้ของกรีซ
กลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซซึ่งนำโดยเยอรมนีนั้น ปฏิเสธที่จะอัดฉีดเงินเพิ่มเติมหรือข้อเสนอ
เพื่อบรรเทาหนี้ของกรีซ ส่งผลให้รมว.คลังไม่สามารถรวบรวมเงินจากแหล่งเงินอื่นๆได้เพียงพอที่
จะบรรเทาภาระหนี้สินของกรีซ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 190% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
(จีดีพี) ในปี 2557
เอเชีย: จีน
หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตีส์ เจอร์นัลรายงานโดยอ้างอิงการคาดการณ์ของนัก
วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนพ.ย. เนื่องจากการปรับตัวขึ้นตาม
ฤดูกาลของราคาสินค้าเกษตร ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรจีนระบุว่า ดัชนีราคาค้าส่งของผลิตภัณฑ์
เกษตรอยู่ที่ 186.00 จุดในวันที่ 20 พ.ย. เพิ่มขึ้น 1.92% ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตรา
เงินเฟ้อของจีนอาจดีดขึ้นกลับสู่ระดับ 2% ในเดือนพฤศจิกายน รายงานระบุว่า เนื่องจากราคา
อาหารมักแพงขึ้นในฤดูหนาว อาจทำให้ระดับเงินเฟ้อของจีนปรับตัวขึ้นอีกในช่วง 2 เดือนสุดท้าย
ของปีนี้
ญี่ปุ่น
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานขั้นต้นว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 5.49 แสนล้าน
เยนในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นการขาดดุลที่มากที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดทำข้อมูลการค้าในปี
2522 โดยรายงานระบุว่า มูลค่าการส่งออกร่วงลง 6.5% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 5.150 ล้านล้าน
เยน ขณะที่การนำเข้าหดตัว 1.6% สู่ระดับ 5.699 ล้านล้านเยน ทั้งนี้ การส่งออกของญี่ปุ่นในช่วง
10 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่ารวม 53.5 ล้านล้านเยน หรือลดลง 2.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่
ผ่านมา
เกาหลีใต้
รัฐบาลเกาหลีเปิดเผยข้อมูลว่า ยอดค้าปลีกของร้านขายสินค้าจากโรงงานและห้าง
สรรพสินค้าขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ ปรับตัวลดลงเนื่องจากผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในการจับ
จ่ายใช้สอย ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาทั่วโลก ทั้งนี้ ยอดการจำหน่ายสินค้าโดยรวม
ของบริษัทขายของลดราคาชั้นนำ 3 แห่ง ได้แก่ อีมาร์ท (E-Mart) ล็อตเต้ มาร์ท (Lotte Mart)
และ โฮมพลัส (Homeplus) ร่วงลง 6.6% ในช่วงตุลาคมปีนี้ ตรงข้ามกับเดือนกันยายนซึ่งเพิ่ม
ขึ้น 0.2%
ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดหนี้สินต่างประเทศของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นแตะ
4.194 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 3.6 พันล้านดอลลาร์จากช่วง 3 เดือนก่อนหน้า
นั้น เนื่องจากธนาคารพาณิชย์กู้ยืมเงินกู้ระยะยาวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ไทย
คณะทำงานตรวจสอบพฤติกรรมการเสนอราคาของผู้เข้าร่วมการประมูลใบอนุญาต
คลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ หรือ ประมูล 3G เปิดเผยว่า ที่ประชุมจะทำการสรุปผลการจรวจ
สอบเบื้องต้น ภายหลังจากที่คณะทำงานได้รับการชี้แจงจาก 3 ส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการประ
มูล 3G โดยส่วนแรก คือ 3 บริษัทที่ผ่านการประมูล ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ท
เวอร์ค, บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค และบริษัทเรียล ฟิวเจอร์ ในเครือบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น รวมถึง
ฐานะบริษัทที่ไม่ผ่านเงื่อนไขการเข้าประมูล คือ บริษัท ทานตะวัน เทเลคอมมูนิเคชั่น ขณะที่ส่วน
ที่ 2 คือการชี้แจงของ 9 จาก 13 บริษัทที่เข้ามารับเอกสารคำขอเข้าร่วมการประมูล 3G ระหว่าง
วันที่ 29 สิงหาคม-27 กันยายน 2555 แต่สุดท้ายกลับตัดสินใจไม่มายื่นคำขอเข้าร่วมประมูล
3G ส่วนสุดท้ายคือข้อมูลจากพนักงานและเจ้าหน้าที่ของ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลเมื่อวัน
ที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางว่าจะมีการทุจริตเกิด
ขึ้น พร้อมระบุว่า คณะทำงานจะทำเรื่องเสนอต่อ สำนักงาน กสทช. เพื่อขอขยายระยะเวลาการทำ
งานเพิ่มเติมจากเดิมที่จะครบกำหนดในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากจำเป็นต้องจัดทำ
รายงานสรุปผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและนำเสนอต่อ สำนักงาน
กสทช. และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาออก
ใบอนุญาตให้กับผู้ผ่านการประมูลได้ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
- ตลาดสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (21 พ.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนี
S&P 500 บวกขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน แม้การซื้อขายอยู่ที่ระดับต่ำที่สุดในปีนี้ก่อนวันขอบคุณ
พระเจ้า โดยปริมาณการซื้อขายอยู่ราว 4.6 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน
(American Stock Exchange) และตลาด Nasdaq ซึ่งต่ำกว่าปริมาณเฉลี่ยต่อวันของปีนี้ที่
ประมาณ 6.5 พันล้านหุ้น ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 48.38 จุดหรือ 0.38%
สู่ 12,836.89, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 3.22 จุด หรือ 0.23% สู่ 1,391.03 และดัชนี
Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 9.87 จุด หรือ 0.34% สู่ 2,926.55
- ตลาดหุ้นเอเชีย เมื่อวันพุธ (21 พ.ย.) ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย
ตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังหุ้นกลุ่มส่งออกพุ่งขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีนิ
กเกอิปิดตลาดพุ่งขึ้น 79.88 จุด หรือ 0.87% สู่ 9,222.52 ด้านตลาดหุ้นฮ่องกงทำสถิติปิดพุ่งขึ้น
มากที่สุดภายในวันเดียวในรอบกว่า 2 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นจีน
ขณะที่หุ้นไชน่า โมบายเป็นหุ้นที่หนุนดัชนีฮั่งเส็งมากที่สุด ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งปิดพุ่งขึ้น 296.08 จุด
หรือ 1.39% สู่ระดับ 21,524.36 ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่วันที่
14 ก.ย.
- ตลาดหุ้นไทย เมื่อวันพุธ (21 พ.ย.)ดัชนีหุ้นไทยปิดทรงตัว หลังร่วงลงในช่วงเช้า ขณะ
ที่ตลาดมีความคาดหวังเชิงบวกว่าจะไม่มีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในวันเสาร์นี้ ทำให้มีแรงซื้อ
กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และธนาคาร ช่วยประคองภาพรวมการลงทุน แต่ความกังวลต่อ
ปัญหาหนี้ของกรีซ และปัญหาภาวะหน้าผาการคลัง(fiscal cliff) ของสหรัฐ ยังถ่วงการลงทุน ทั้งนี้
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดลบ 0.02 จุด มาที่ 1,276.39 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 22,620.03 ล้าน
บาท
วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
สำนักวิจัย ซีไอเอ็มบี ไทย : รายงานสรุปและวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินราย วัน 22/11/55
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น